ผลกระทบและการปรับตัวของแรงงานและผู้ประกอบการหญิงในธุรกิจท่องเที่ยว
ภายใต้สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19
กรณีศึกษา อ. หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
The impact on and adjustment of woman workers and entrepreneurs
in tourism businesses under the Covid-19 pandemic:
A case study of Hua-Hin, Prachuap Khirikhan
ที่มาและความสำคัญของโครงการ
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทยที่สร้างรายได้ให้กับคนจำนวนมาก กว่าร้อยละ 20 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศมาจากธุรกิจภาคการท่องเที่ยว และกว่าร้อยละ 15 ของการจ้างงานในประเทศอยู่ในภาคการท่องเที่ยว (World Tourism and Travel Council 2014) ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและบริการเป็นภาคส่วนที่มีการจ้างแรงงานผู้หญิงสูง เนื่องจากเป็นงานที่ต้องการทักษะและบุคลิกภาพที่เชื่อมโยงกับความเป็นหญิง เช่น ความอ่อนโยน เอาใจใส่ มนุษยสัมพันธ์ดีและความยิ้มแย้มแจ่มใส (McDowell 2009, Pritchard et al. 2007, Sunanta 2020)
ธุรกิจการท่องเที่ยวจึงเป็นโอกาสในการสร้างอาชีพและความเป็นอิสระทางเศรษฐกิจให้กับผู้หญิง โดยผู้หญิงมีบทบาทเป็นทั้งลูกจ้างและผู้ ประกอบการธุรกิจในด้านกาท่องเที่ยวโดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (Tucker & Boobana 2012, Trupp & Sunanta 2017) แม้จะเป็นงานที่ให้ค่าตอบแทนสูงกว่าภาคส่วนอื่นๆ เช่น ภาคการเกษตรและภาคการผลิต แต่งานในภาคการท่องเที่ยวก็มีความมั่นคงตํ่า งานในธุรกิจการท่องเที่ยวมีสัดส่วนของการจ้างงานแบบไม่เป็นทางการสูง แรงงานไม่ได้รับการคุ้มครองด้านรายได้และสวัสดิการตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ทั้งนี้ผู้หญิงมีสัดส่วนสูงในภาคการท่องเที่ยวที่ให้ค่าตอบแทนตํ่า และผู้หญิงยังเป็นส่วนสำคัญของแรงงานที่ไม่ได้รับค่าตอบแทนในธุรกิจการท่องเที่ยวแบบครอบครัว (World Tourism Organization 2021) ธุรกิจการท่องเที่ยวต้องเผชิญกับความผันผวนของรายได้ในแต่ละฤดูกาล และยังอ่อนไหวต่อผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ
ในปี 2563 ภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทยต้องเผชิญกับวิกฤติที่หนักที่สุดเท่าเคยประสบมา จากการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ โควิด 19 ที่ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวหยุดชะงักลงทั้งโลก วิกฤติการณ์ที่กินระยะเวลายาวนาน ตั้งแต่ปลายปี 2562 ถึงปัจจุบัน ทำให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวต้องพยายามปรับตัวเพื่อความอยู่รอด หลายธุรกิจต้องปิดกิจการชั่วคราวหรือถาวร ทำให้พนักงานจำนวนมากมีรายได้ลดลงอย่างมากหรือถูกเลิกจ้างผลกระทบที่เกิดกับภาคการท่องเที่ยวส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยทั้งระบบเนื่องจากเศรษฐกิจไทยพึ่งพาธุรกิจการท่องเที่ยวสูง วิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด 19 เผยให้เห็นความเปราะบางซึ่งมีอยู่แล้วของงานในภาคการท่องเที่ยว ช่วยตอกยํ้าให้เห็นปัญหาอย่างชัดเจนและรุนแรง การศึกษาผลกกระทบของการระบาดโควิด 19 จึงเป็นการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาความเปราะบางของเศรษฐกิจการท่องเที่ยวโดยรวมด้วย
วัตถุประสงค์ของโครงการ
- ศึกษาผลกระทบของการระบาดของโรคโควิด 19 และการปรับตัวของผู้หญิงซึ่งเป็นแรงงานและผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
- สำรวจประสิทธิผลของมาตรการเยียวยาภาครัฐต่อผู้หญิงซึ่งเป็นแรงงานและผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
- เสนอแนะแนวทางในการลดผลกระทบจากสถานการณ์โควิด 19 ในระยะสั้นและระยะยาวต่อผู้หญิงซึ่งเป็นแรงงานและผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กด้านการท่องเที่ยว เสริมสร้างการให้ความคุ้มครองทางสังคมแก่แรงงานในภาคการท่องเที่ยว เพื่อพัฒนาธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศไทยให้มีความยั่งยืน เป็นภาคส่วนทางเศรษฐกิจที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากรได้อย่างแท้จริง บนแนวทางการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ภาคเอกชน ภาครัฐ แรงงาน ภาคประชาสังคมและหน่วยงานวิชาการ
พื้นที่ในการศึกษา

คณะทำงาน

รองศาสตราจารย์ ดร.ศิริจิต สุนันต๊ะ
(หัวหน้าโครงการ)
สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล
โทรศัพท์ : (662) 8002308-14 ext.3329
Email: sirijit.sun@mahidol.edu

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณรงค์ อาจสมิติ
(ผู้ร่วมวิจัย)
สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล
โทรศัพท์ : (662) 8002308-14 ext.3331
Email : narong.ard@mahidol.ac.th

นางสาวภัทราพันธ์ อุดมศรี
(เจ้าหน้าที่วิจัย)
สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล
Email : phathraphan.udo@mahidol.edu